กล้องดิจิตอล (DSLR)

เป็นกล้องดิจิตอลแบบเปลี่ยนเลนส์ได้ (Digital single lens reflex : DSLR) ได้รับการพัฒนามาจากกล้องฟิล์ม (SLR) โดยใช้เซนเซอร์ในการรับแสงแทนฟิล์ม

มีชิพประมวลผลแปลงค่าสัญญาณที่ได้จากเซนเซอร์มาสร้างเป็นภาพ มีโหมดออโต้ให้ใช้งานและยังใช้โหมดเแมนวลเพื่อตั้งค่าต่างๆ ได้เอง มีระบบออโต้โฟกัส เพื่อช่วยให้โฟกัสได้แม่นยำและเร็วขึ้น ต่างจากกล้องฟิล์มที่ต้องหมุนเลนส์หาความชัดด้วยตัวเอง ทำให้ช้าและบางครั้งอาจจะโฟกัสผิดจุดได้ ต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ต่างกับกล้องฟิล์มที่ไม่ต้องใช้ก็นำมาถ่ายได้เลย แต่ยังใช้กระจกสะท้อนในการมองภาพเช่นเดิม เปลี่ยนเลนส์ได้ ข้อดีของการเปลี่ยนเลนส์ได้คือสามารถเลือกช่วงความยาวโฟกัสของเลนส์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เช่น ไปเที่ยวในเมืองที่มีตึกสูงหรือถ่ายวิวทั่วไป เลนส์ที่ให้มากับกล้องอาจจะเก็บภาพได้ไม่หมดตามที่เราต้องการ เราจึงต้องเปลี่ยนเป็นเลนส์มุมกว้าง (Wide) หรืออยากจะถ่ายสิ่งที่ไกลๆ ก็ต้องใช้เลนส์เทเล (Tele) เพื่อขยายภาพให้ใหญ่ขึ้น เลนส์เทเล จริงๆ แล้วไม่ได้เรียกว่า เลนส์ซูม นะ เลนส์ซูม หมายถึงเลนส์ที่เปลี่ยนช่วงทางยาวโฟกัสได้เช่น 18-55 mm , 70-200mm ส่วนเลนส์ที่เปลี่ยนทางยาวโฟกัสไม่ได้เรียกว่าเลนส์ฟิกซ์ (Fix)
ตาของคนเราข้างเดียวมีมุมรับภาพเท่ากับเลนส์ 50mm เรียกว่าเลนส์นอมอล (Normal) ส่วนที่มากกว่า 50 mm เรียกว่าเลนส์เทเล น้อยกว่าเรียกว่าเลนส์มุมกว้าง (Wide) ไหนๆ ก็บอกไปแล้วว่าตาข้างเดียวเท่ากับ 50 mm เดี๋ยวจะมีคนอยากรู้ว่าแล้ว 2 ข้างล่ะเท่ากับเท่าไร บอกต่อก็ได้ว่าตา 2 ข้างเท่ากับ 35 mm เราสามารถนำเลนส์ตั้งแต่สมัยกล้องฟิล์มมาใส่ในกล้องดิจิตอลได้ บางยี่ห้อใส่ได้เลยโดยตรง แต่ถ้าใส่โดยตรงไม่ได้ ต้องใช้อแดปเตอร์มาต่อก่อนจึงจะใส่ได้
กล้อง DSLR ใช้เซนเซอร์รับภาพแบ่งเป็น 2 แบบหลักๆ ตามขนาดคือใช้เซนเซอร์เท่ากับฟิล์ม 35 มม. เรียกว่ากล้องฟูลเฟรม และเซนเซอร์อีกแบบที่มีขนาดเล็กกว่าเรียกว่ากล้องตัวคูณ (APS-C) คือ เมื่อเรานำกล้องตัวคูณมาถ่าย ช่วงทางยาวโฟกัสที่บอกบนเลนส์ และมุมรับภาพ จะไม่เท่ากับที่ใช้กับกล้องฟูลเฟรม เช่น ใช้เลนส์ทางยาวโฟกัส 100 mm กล้อง Canon ต้องคูณ 1.6 เท่ากับว่าช่วงทางยาวโฟกัสและมุมรับภาพที่แท้จริง จะเท่ากับ 160 mm ส่วนNikon คูณ 1.5 เท่ากับ 150 mm กล้องตัวคูณจะได้เปรียบกล้องฟูลเฟรมเมื่อถ่ายวัตุที่อยู่ไกล จะได้ขนาดที่ใหญ่กว่าเมื่อยืนเท่ากัน
เซนเซอร์ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของกล้องดิจิตอล เซนเซอร์ฟูลเฟรมให้คุณภาพโดยรวมที่ดีกว่า แบบตัวคูณไม่ว่าจะเป็นสี มิติความชัดตื้น (หน้าชัดหลังเบลอมากกว่า) สัญญาณรบกวน (Noise) เม็ดจุดสีเล็กๆ ที่มองเห็นได้ในภาพเมื่อใช้ความไวแสง (ISO) สูงๆ ดังนั้นกล้องฟูลเฟรมส่วนมากจะมีราคาสูง
บนเซนเซอร์จะมีเม็ด pixel จำนวนมากอยู่ บอกถึงความละเอียดและขนาดของภาพ เช่น Canon 6D มีความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ในยุคแรกๆของกล้องดิจิตอลแต่ละค่ายจะแข่งกันผลิตกล้อง และโฆษณาเกทับกัน ผลิตกล้องที่มีความละเอียดสูงกว่าอีกค่าย จนเรียกว่าสงครามพิกเซล และสงครามจบลงตั้งแต่ผลิตกันได้ที่ 8-10 ล้านพิกเซลแล้ว ในปัจจุบันแทบจะไม่ต้องไปใส่ใจกับจำนวนพิกเซลแล้ว เพราะแค่ 12 ล้านพิกเซลก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป
กล้อง DSLR สำหรับมืออาชีพ และระดับผู้ใช้งานทั่วไปนอกจากขนาดเซนเซอร์แล้ว ยังมีเรื่องระบบโฟกัสที่กล้องระดับมืออาชีพจะแม่นยำและรวดเร็วกว่า ปุ่มควบคุมต่างๆ จะมีมากและใช้งานได้คล่องตัว ในขณะที่กล้องระดับใช้งานทั่วไปอาจต้องเข้าไปปรับที่หน้าจอเมนู วัสดุที่ใช้ทำตัวกล้องระดับมืออาชีพจะเป็นโลหะที่มีความทนทานต่อสภาพอากาศและพื้นที่ต่างๆ ได้ดี
แนะนำกล้อง DSLR
Canon 6D
ในรูปคือ Canon 6D เป็นกล้องฟูลเฟรม ที่มีน้ำหนักเบาเมื่อเทียบกับกล้องฟูลเฟรมรุ่นอื่นๆ ความละเอียดประมาณ 20 ล้านพิกเซล จุดโฟกัส 11 จุด มี noise น้อยเมื่อใช้ ISO สูง มี Wi-Fi สำหรับส่งรูปและถ่ายรูปผ่านแอพ มี GPS บอกตำแหน่ง
Canon : www.canon.co.th
อ้างอิง
https://www.blogger.com/